ทีมชาติอิตาลีกับการคุกเข่าก่อนลงสนาม แม้ไม่สนับสนุน BLM

italy1

(Credit: Wanted In Rome)

กลายเป็นที่สับสนไปเลยก็ว่าได้ เมื่อสมาคมฟุตบอลอิตาลีได้ออกมายืนยันว่า

พวกเขาจะอนุญาตให้นักเตะสามารถคุกเข่าก่อนเริ่มเกม

ที่ทีมชาติจะได้เจอกับประเทศเบลเยี่ยมในรายการฟุตบอลยูโร 2020

หากคู่แข่งของเขาต้องการจะแสดงสัญลักษณ์นั่นเอง

แต่ทว่าสมาคมกลับประกาศอีกว่า การที่พวกเขายอมคุกเข่าก็เป็นเพราะว่า

ทีมต้องการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างสองทีม

และไม่ได้ต้องการจะรณรงค์ลดปัญหาการเหยียดเชื้อชาติแต่อย่างใด

ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า มีนักเตะเพียงบางคนในทีมเท่านั้นที่ได้แสดงสัญลักษณ์ในสนามจากเกมที่ผ่านมา

italy2

(Credit: Football Italia)

กัปตันทีมชาติอิตาลีที่ยินยอมให้แสดงสัญลักษณ์

Giorgio Chiellini ผู้นำในสนามของทีมชาติอิตาลีได้ออกมาพูดก่อนหน้าสมาคมไว้ว่า

พวกเขายินดีที่จะคุกเข่าตามที่คู่แข่งต้องการในช่วงเริ่มเกมเพื่อแสดงออกถึงความมีน้ำใจนักกีฬา

แต่ทาง FIGC หรือสมาคมฟุตบอลก็ออกมายืนยันว่า

นักเตะของพวกเขาสามารถแสดงออกได้

แม้ว่าจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงณ์ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติก็ตาม

ซึ่งในเกมที่พวกเขาเจอกับทีมชาติออสเตรียก็ไม่มีการคุกเข่าแต่อย่างใด

ก่อนที่ต่อมาพวกเขาจะออกมาชี้แจงอีกครั้งว่า

ทางสมาคมยังคงต่อต้านพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเชื้อชาติเช่นเดิม

แต่ทว่าต้องการจะเปิดช่องทางให้ผู้เล่นสามารถแสดงออกได้อย่างอิสระมากกว่านั่นเอง

italy3

(Credit: Goal)

ท่าทางของผู้เล่นอิตาลีที่น่าสับสน

เรื่องที่ทำให้หลายคนพูดถึงของทีมชาติอิตาลีก็คือ

ช่วงก่อนเกมมีนักเตะเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คุกเข่า

เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในประเด็นที่กำลังร้อนแรงอยู่ในปัจจุบันจากเกมที่เจอกับทีมชาติเวลส์นั่นเอง

โดยผู้เล่นจากแดนมักกะโรนีก็มีทั้ง Andrea Belotti, Matteo Pessina, Emerson Palmieri, Rafael Toloi และ Federico Bernardeschi เท่านั้น

ที่คุกเข่าไปพร้อมกับนักเตะของทีมมังกรแดง

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีของประเทศจะออกมาวิจารณ์อย่างหนักที่มีนักเตะไม่กี่คนจนทำให้ประเทศดูไม่ดีอีกด้วย

รวมถึงตำนานอย่าง Claudio Marchisio ยังต้องออกมาวิจารณ์รุ่นน้องของตัวเองว่า

การประท้วงครั้งนี้มีความสำคัญต่อวงการอย่างมากและทุกคนควรจะร่วมมือให้มากกว่านี้เช่นกัน

ท่าทีของทีมชาติอิตาลีคงทำให้แฟนบอลและคนที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ

ก็น่าจะทำให้ภาพลักษณ์ของทีมเสียหายไปไม่น้อยเลยทีเดียว

ซึ่งทั้งนายกรัฐมนตรีและตำนานของทีมก็ยังต้องออกมาวิจารณ์วงการฟุตบอลของประเทศ

ที่ดูมองไม่เห็นความสำคัญของการประท้วงครั้งนี้

รวมถึงการพยายามลดทอนการรณรงค์ให้กลายเป็นเรื่องไกลตัวของผู้เล่น

จนเหลือเป็นเพียงตัวเลือกสำหรับนักเตะแต่ละคนไปเสียอย่างนั้น