ผลงานสวยหรูของทีมชาติเนเธอร์แลนด์กับสถิติตั้งแต่ปี 1935

ืned1

(Credit: Eurosport)

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ยังเป็นทีมที่น่าจับตามองเช่นเดิม

เมื่อพวกเขาสามารถจบรอบแบ่งกลุ่มในฟุตบอลยูโร 2020 ไปด้วยการเอาชนะคู่แข่งถึงสามเกมรวดเลยทีเดียว

โดยในนัดสุดท้ายของพวกเขาก็สามารถเอาชนะบ๊วยของกลุ่มอย่างประเทศมาซีโดเนียเหนือไปอย่างไม่ยากเย็นนักด้วยสกอร์ 3-0

ซึ่งพวกเขาได้ประตูจาก Memphis Depay ในครึ่งแรกตามด้วยการเหมาสองประตูของ Georginio Wijnaldum

จนทำให้พวกเขานำห่างตั้งแต่เกมยังเล่นไม่ครบชั่วโมง แล้วยังทำสถิติใหม่นับตั้งแต่ปี 1935 เลยทีเดียว

ned2

(Credit: SportsAdda)

ชัยชนะสิบเกมรวดพร้อมยิงเกินสองประตู

ชัยชนะของทีมชาติเนเธอร์แลนด์เหนือทีมชาติมาซีโดเนียเหนือในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม

ก็ทำให้ลูกทีมของ  Frank de Boer ทำผลงานที่สวยหรูด้วยการเอาชนะคู่แข่งได้ถึงสิบเกมติดต่อกันแล้ว

ในแต่ละเกมยังสามารถยิงประตูใส่ฝ่ายตรงข้ามได้มากถึงสองลูกขึ้นไปอีกด้วย

โดยครั้งสุดท้ายที่เหล่าอัศวินสีสมเคยทำสถิติแบบนี้ได้ต้องย้อนกลับไปปี 1935 เลยทีเดียว

ซึ่งในเวลานั้นทีมในตำนานสามารถทำได้เก้าเกมติดต่อก่อน

โดยผลงานที่ยอดเยี่ยมนี้ก็ต้องชื่นชมทาง Georginio Wijnaldum ที่โชว์ฟอร์มได้ดีอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

ned3

(Credit: The Guardian)

Georginio Wijnaldum พระเอกของทีมชาติเนเธอร์แลนด์

เหล่านักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในชุดนี้อาจไม่ได้เป็นที่จับตามองเหมือนกับจอมทัพในรุ่นก่อน ๆ

ที่มีทั้ง Wesley Sneider หรือ Arjen Robben ที่โดดเด่นมาตลอด แต่ทีมก็ยังไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด

จนกระทั่งในรายการฟุตบอลยูโร 2020 พวกเขาจะกลับมาทำผลงานร้อนแรงอีกครั้ง

โดยทางกองกลางในยุคนี้อย่าง Wijnaldum ที่สามารถยิงได้สองลูกและทำให้เขายิงได้มากถึง 25 ลูกจาก 78 เกม

รวมถึงยังทำให้ตัวเขายิงแซงกองหน้าในตำนานอย่าง Marco van Basten ที่เคยทำเอาไว้ถึง 24 ประตูอีกด้วย

และทำให้กองกลางคนใหม่ของปารีสแซงค์แชร์แมงทำสถิติเทียบเท่ากับ Rafael van der Vaart ไปแล้วเช่นกัน

แม้ว่าจะยังตามหลังเพื่อนร่วมทีมอย่าง Memphis Depay ก็ตาม

ต้องยอมรับว่า ผลงานของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ทำได้อย่างยอดเยี่ยม

ก็เพราะเหล่านักเตะแดนรุกที่เป็นหัวใจสำคัญของพวกเขาจนสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างสวยงามเสมอในฟุตบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกล่มทั้งสามเกมที่ผ่านมา

หากทาง Georginio Wijnaldum, Memphis Depay หรือทาง Denzel Dumfries

ยังรักษามาตรฐานของตัวเองได้อย่างแข็งแกร่ง

ก็น่าจะทำให้ทีมของ Frank de Boer มีลุ้นความสำเร็จครั้งที่สองของพวกเขาได้อย่างแน่นอน