พึ่งใครไม่ได้ Pep Guardiola ย้ำแมนซิตี้จะรอให้ลิเวอร์พูลพลาดเองไม่ได้

(Credit: 90Min)

หลังจากที่เก็บสามคะแนนสำคัญได้แล้ว Pep Guardiola ก็ยังออกมายืนยันว่า แมนซิตี้ของเขานั้นไม่สามารถรอโอกาส

ให้ลิเวอร์พูลพลาดเองได้เลยในการลุ้นแชมป์ครั้งนี้ โดยทางเรือใบสีฟ้าถูกหงส์แดงพลิกแซงไปหนึ่งวันจากเกมแดงเดือด

ที่ทีมของ Jurgen Klopp ถล่มแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปเละเทะถึง 4-0 ก่อนที่วันต่อมาทีมจากถิ่นเอทิฮัดจะเปิดนบ้านเจอกับ

ไบรท์ตันโฮฟอัลเบี้ยนที่เกมจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าบ้านไป 3-0 ก่อนขึ้นมาเป็นจ่าฝูงตามเดิม

จนกระทั่งมีคนนำไปเปรียบเทียบกับฤดูกาล 2018/2019 ที่ทั้งสองทีมแข่งกันจนถึงเกมสุดท้ายเลยทีเดียว

(Credit: 90Min)

กุนซือย้ำนี่คือการซ้ำรอยเมื่อสามปีก่อน

หากย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนนั้น Pep Guardiola ก็เคยพาทีมแมนซิตี้ต้องมาเบียดแย่งชิงกับลิเวอร์พูลมาแล้ว

ซึ่งความรู้สึกแแบบนั้นก็กลับมาอีกครั้งในปีนี้สำหรับกุนซือชาวสเปน “มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อสามปีก่ออนที่เราเอาชนะ

ได้ 14 เกมติดต่อกันเพื่อจะเป็นแชมป์ ความรู้สึกนั้นก็คือ ถ้าเราเอาชนะทุกเกมเราจะเป็นแชมป์ ถ้าเราทำไม่ได้เราก็อดไป

ลืมเรื่องนั้นไปเลย (ที่ลิเวอร์พูลจะสะดุด) พวกเขาจะเอาชนะทุกเกมที่เหลือแน่ มันเหลืออีกแค่เดือนเดียว

แล้วลิเวอร์พูลก็เป็นทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เรากำลังเจอคู่แข่งที่ดีที่สุดตลอดกาล นักเตะรู้ดีอยู่แล้ว”

p3

(Credit: 90Min)

การแข่งกับตัวเองเท่านั้น

สิ่งที่ Pep Guardiola คิดไว้ก็คือ ทีมของพวกเขาในตอนนี้จะต้องพยายามเอาชนะตัวเองให้ได้

เพราะการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกมีความหมายต่อทุกคนอย่างมากนั่นเอง โดยเกมต่อไปของพวกเขาคือการเจอกับวัตฟอร์ด

ที่กำลังหนีตกชั้นอยู่ และเป็นโอกาสที่พวกเขาจะสามารถพาทีมทิ้งห่างหงส์แดงไปสี่คะแนน เพราะแข่งก่อนคู่แข่ง 

“เราเคยเจอกับพวกเขา เรารู้ดี นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกถึงสำคัญกับเรามาตลอด เราอยู่ตำแหน่งนี้มาก่อน

เราต้องแข่งกับตัวเอง ทั้งผลงานและสภาพจิตใจ มันเป็นเรื่องยากก็จริง แต่ผมเชื่อเลยว่า นักเตะของผมจะก้าวขึ้นมาได้”

เป้าหมายหลักของ Pep Guardiola ยังคงเป็นเรื่องการพยายามคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ หลังจากที่แมนซิตี้เป็น

ทีมที่มีโอกาสดีที่สุดจากตำแหน่งจ่าฝูงและนำลิเวอร์พูลอยู่หนึ่งคะแนนด้วยกัน แถมพวกเขายังเพิ่งจะตกรอบรายการเอฟเอคัพ

ไปด้วยฝีมือของหงส์แดงที่อาจจะมีจุดให้สนใจมากกว่าการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก

รวมถึงทีมของ Jurgen Klopp ยังต้องแข่งในรากยารยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย