มาแล้วเรียบร้อย! แมนเชสเตอร์ซิตี้ประกาศเปิดตัว Kalvin Phillips เข้าสู่ทีม

(Credit: 90Min)

ไม่ผิดแผนจริง ๆ เมื่อ Kalvin Phillips ได้ย้ายเข้าสู่แมนเชสเตอร์ซิตี้เป็นที่เรียบร้อย ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์

จากลีดส์ยูไนเต็ดและมีสัญญายาวถึง 6 ปีกับทีมเลยทีเดียว โดยหน้าที่ของเขาจะเป็นการมาแทนที่ Fernandinho

ที่เพิ่งจะหมดสัญญาและกลับไปประเทศบราซิลในปีนี้ ส่วนกองกลางทีมชาติอังกฤษก็จะได้รับเบอร์ 4 ที่ว่างอยู่ไป

ซึ่งข่าวการย้ายทีมของนักเตะรายนี้ก็เกิดขึ้นมาสักพักใหญ่ แต่สุดท้ายทั้งสองทีมกลับมาตกลงกันได้

ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แล้วทีมแชมป์เก่าก็จะได้นักเตะจากสิงโตคำรามมาอีกรายหนึ่งแล้ว

(Credit: 90Min)

ทีมที่ดีที่สุดในประเทศ

มาถึงก็หยอดคำหวานทันที สำหรับทาง Kalvin Phillips ที่ออกมาเปิดใจ หลังจากได้ย้ายมาแมนเชสเตอร์ซิตี้

ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ “ผมยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมทีม เพราะซิตี้ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งแล้วว่า

เป็นทีมที่ดีที่สุดในประเทศนี้ด้วยนักเตะที่น่าทึ่งและผู้จัดการทีมที่ถูกมองว่า เป็นสุดยอดคนหนึ่งในโลกใบนี้

การได้เล่นภายในการดูแลของ Pep (Guardiola) การได้เรียนรู้จากเขาและทีมงานทุกคน

เช่นเดียวกับการเป็นส่วนหนึ่งของขุมกำลังนักเตะที่ยอดเยี่ยมก็ถือเป็น มุมที่ผมตื่นเต้นอย่างมากเลยละ”

(Credit: 90Min)

ค่าตัวที่ไม่แพงอย่างที่คาด

ก่อนหน้านี้การเจรจาซื้อตัว Kalvin Phillips เคยมีค่าตัวสูงถึง 60 ล้านปอนด์ด้วยกัน ทว่าการพูดคุยของทั้งสอง

ก็ทำให้เรือใบสีฟ้าไม่จำเป็นต้องเสียเงินมากอย่างที่คิด โดยฝั่งของทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกเก่าจะต้องจ่ายเงินทั้งสิ้น

45 ล้านปอนด์เท่านั้น ขณะที่มีเงินจำนวน 3 ล้านที่จะเป็นโบนัสให้กับผู้เล่นเพิ่มเติมเข้ามา ทีมของ Pep Guardiola เอง

ก็พยายามจะดึงกองกลางคนใหม่เข้ามาสู่ทีมเสมอ แถมยังดูฟอร์มของนักเตะมาตลอด จนกระทั่งตัดสินใจซื้อตัวในที่สุด

“ซิตี้คือทีมระดับโลก ที่มีทีมงานกับสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก มันคือฝันที่เป็นจริง เมื่อได้ย้ายมาสู่ทีม

ตอนนี้ผมรอไม่ไหวที่จะได้ลงเล่นและช่วยทีมให้ประสบความสำเร็จกว่าเดิมแล้ว”

ต้องยอมรับว่า การเสริม Kalvin Phillips เข้ามาก็ทำได้ตรงจุดที่แมนเชสเตอร์ซิตี้ควรจะทำขึ้นมาจริง ๆ

เพราะพวกเขาเองก็มีปัญหาเรื่องการขาดนักเตะแนวรับในช่วงปลายฤดูกาลและเกือบจะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว

หากไม่ได้ความมหัศจรรย์ในค่ำคืนสุดท้ายของฤดูกาลก่อน ซึ่ง Pep Guardiola เองคงไม่ต้องการจะเจอปัญหาเดิม

แบบที่เป็นมาก่อนหน้านี้ จนกระทั่งทีมได้ลงเดินหน้าในตลาดซื้อขายอย่างเต็มตัวนั่นเอง