ฮีโร่ของเกม Jurgen Klopp ชมเปราะ Caoimhin Kelleher มือกาวบอลถ้วยพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์

(Credit: 90Min)

กลายเป็นคนที่ Jurgen Klopp จะต้องขอบคุณเลยทีเดียว สำหรับทาง Caoimhin Kelleher ผู้รักษาประตูของทีมที่

มักจะทำหน้าที่ในรายการฟุตบอลถ้วยประจำปีนี้ ซึ่งทางนายใหญ่ชาวเยอรมันก็ยังไว้ใจให้เขาลงในเกมรอบชิงชนะเลิศ

ก่อนที่เขาจะไม่ผิดหวัง เพราะมือกาวรายนี้ยังป้องกันประตูได้หลายครั้ง จนกระทั่งทั้งลิเวอร์พูลกับเชลซี

ต่างทำอะไรกันไม่ได้และต้องไปตัดสินในการดวลจุดโทษแทน ก่อนที่ Kelleher คนนี้เองจะเป็นนักเตะคนที่ 11 ของทีม

และสามารถยิงประตูเข้าไปได้ จนกลายเป็นลูกตัดสินของเกมนี้ในที่สุด

(Credit: 90Min)

ความไว้ใจที่ตอบแทนได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากทาง Jurgen Klopp ได้ใช้งาน Caoimhin Kelleher มาตลอดในรายการฟุตบอลถ้วยประจำฤดูกาลนี้

จึงทำให้เขายังคงได้รับตำแหน่งตัวจริงในเกมที่ลิเวอร์พูลเจอกับเชลซีเหมือนเดิม แม้ว่าจะเป็นการชิงแชมป์

ถ้วยแรกของปีนี้สำหรับทีมก็ตาม ก่อนที่เขาจะทำผลงานจนนายใหญ่พอใจเลยทีเดียว

“แม้จะเป็นวงการฟุตบอล แต่มันก็ควรมีพื้นที่สำหรับความเห็นใจเหมือนกัน เพราะ Kelleher เป็นเด็กหนุ่มที่เล่น

ในฟุตบอลถ้วยมาตลอด แล้วจะให้ผมทำยังไงละ ผมเป็นทั้งสองอย่างเลยนะ ผู้จัดการทีมมืออาชีพและมนุษย์คนหนึ่ง

สุดท้ายความเป็นเพื่อนมนุษย์ก็ชนะ เขาสมควรสได้รับโอกาสนี้”

klopp

(Credit: 90Min)

Klopp ยอมรับเกมสุดยากกับเชลซี

นอกจาก Jurgen Klopp จะชื่มผู้รักษาประตูคนนี้แล้ว ทางนายใหญ่ชาวเยอรมันก็ให้เครดิตคู่แข่งอย่างเชลซี

ที่ยื้อกันมานานจนต้องดวลจุดโทษครบทุกคนเลยนั่นเอง “ผมมีความสุขที่คนมาฉลองกันแบบนี้นะ

เชลซีก็แข็งแกร่งมาก เราสู้สีกันจริง ๆ เลยละ นั่นคือจุดเริ่มต้นของเราและเราก็ไม่ได้ทำพลาด เราจำเป็นต้องมีโชค

และเราก็มีจริง ๆมันอาจจะเป็น 5-5 ก็ได้ ผมคงจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าเรานำ 1-0 และกลับบ้านได้เลย

ผมยินดีกับทุกคนที่ได้ฉลองอะไรแบบนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากในปัจจุบัน

เราต้องทำงานหนักเหมือนเดิม เรามีเกมที่ต้องเล่นในวันพุธ แต่เราจะฉลองสำหรับคืนนี้”

ชัยชนะครั้บนี้ก็ทำให้ Jurgen Klopp สามารถพาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง หลังจากที่คว้าน้ำเหลว

ในปี 2020-2021 ไปด้วยอาการบาดเจ็บของนักเตะมากมายจนกลายเป็นปีที่น่าผิดหวัง ทว่าในปัจจุบันพวกเขา

ก็กลับมามีความมั่นใจกันแล้ว รวมถึงการที่นักเตะอย่าง Caoimhin Kelleher ได้ลงสนามในเกมสำคัญ

ก็น่าจะชัดเจนแล้วว่า หงส์แดงเชื่อใจนักเตะมากแค่ไหนจนปีนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีของพวกเขาอย่างแน่นอน