เหตุผลง่าย ๆ Erling Haaland กองหน้าคนใหม่เปิดใจเรื่องการย้ายซบแมนเชสเตอร์ซิตี้

(Credit: 90Min)

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ใครกันแน่ที่ช่วยให้ Erling Haaland ตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ถ้าไม่ใช่ Alf-Inge

ที่เคยอยู่ในทีมเดียวกันเมื่อหลายปีก่อนนั่นเอง โดยย้อนกลับไปในปี 1993 นั้นทางกองกลางรายนี้ก็ได้มีประสบการณ์

มาเล่นในเกาะอังกฤษ ก่อนที่จะได้มาร่วมทัพเรือใบในปี 2000 แม้ว่าจะได้เล่นในทีมเพียงแค่ 45 เกมเท่านั้น

เพราะว่าเจ้าตัวดันมีอาการบาดเจ็บจากฝีมือหรือฝีเท้าของ Roy Keane จากทีมอริตลอดกาลแบบยูไนเต็ด

จนกระทั่งต้องเกษียณตัวเองไปในปี 2003 แต่ประวัติศาสตร์ของตระกูลจะได้ไปต่อในช่วงฤดูกาลหน้าแล้ว

(Credit: 90Min)

Erling ที่เกิดในอังกฤษ

ที่จริงแล้ว ทาง Erling Haaland เองก็เกิดในประเทศอังกฤษ สมัยที่พ่อของเขาได้ลงเล่นให้ลีดส์ยูไนเต็ด

แต่ก็เป็นช่วงคาบเกี่ยวที่เขาจะย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้พอดีเช่นกันในปี 2000 แน่นอนว่า มันเป็นโอกาส

ให้เขาได้เดินตามรอบพ่อของตัวเองและคงปฏิเสธไปไม่ได้เลยทีเดียว “อันดับแรกเลยก็พ่อผมเองนั่นละ มีส่วนอยู่บ้าง

ผมเกิดในประเทศอังกฤษ ผมเป็นแฟนของซิตี้มาตลอดชีวิต ผมรู้จักสโมสรแห่งนี้ดี ในท้ายที่สุดเรื่องการตัดสินใจครั้งนี้

ก็มีสองอย่างคือ ผมรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้านและผมรู้ว่า ผมสามารถพัฒนาตัวเองและยกระดับตัวเองให้ดีที่สุดในซิตี้”

(Credit: 90Min)

การได้ร่วมงานกับ Pep เช่นกัน

อีกสิ่งหนึ่งที่ Erling Haaland คงปฏิเสธไม่ลงก็คือ การที่เขาจะได้ลงเล่นและมี Pep Guardiola คุมทีมอยู่

ซึ่งทางกองหน้าจอมโหดรายนี้ก็ชอบเกมรุกเป็นปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่อยู่กับโบรุสเซียดอร์ทมุนด์จนทำให้

การมาร่วมทีมครั้งนี้ไม่น่าจะทำให้เขาปรับตัวได้ลำบากมากนัก “ผมชอบสไตล์การเล่นด้วยนะ ผมชอบเกมรุก

และผมชอบบรรยากาศที่ดีตอนที่ซิตี้เล่นฟุตบอล นี่มันเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก ผมคิดว่ามันเหมาะสมเลยละ ผมคิดว่า

ผมสามารถพัฒนาตัวเองได้อีกเยอะถ้าได้ร่วมงานกับ Pep ในสโมสรแห่งนี้

ผมคิดว่า ผมพัฒนาได้อีกและหวังว่า จะยิงประตูได้เยอะ ๆ ”

ก็ต้องมาดูฟอร์มของ Erling Haaland กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ว่าจะโหดสมใจหรือไม่ หลังจากที่เจ้าตัวเอง

ก็ทำผลงานได้ดีมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมากับโบรุสเซียดอร์ดมุนด์ จนกระทั่งเป็นดาวยิงฟอร์มร้อนแรง

ที่ต่างต้องการพิสูจน์ตัวเองและเดินตามรอยพ่อในสโมสรแห่งนี้ ส่วนที่เหลือก็คงจะเป็นเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับเกม

ในพรีเมียร์ลีกที่ค่อนข้างแตกต่างกับเยอรมันประมาณหนึ่ง แม้จะได้เล่นเกมรุกเหมือนเดิมก็ตาม