แข้งบราซิลงานเข้า หลังพรีเมียร์ลีกสั่งห้ามลงสนามห้าวัน

ิba1

(Credit: 90Min)

เหล่านักเตะทีมชาติบราซิลของสโมสรต่าง ๆ ในพรีเมียร์ลีกถึงกับต้องกุมขมับอย่างแน่นอน หลังจากที่ทางเอฟเอ

ของประเทศทางอเมริกาใต้ได้ออกมาร้องเรียนต่อฟีฟ่า หลังจากที่ทีมจากเกาะอังกฤษมีกฎห้ามนักเตะในประเทศสีแดง

กลับไปลงสนามให้กับเกมทีมชาติ เพราะสถานการณ์โควิดของพวกเขายังคงร้ายแรงอยู่ ทว่าจากคำตัดสินใจของฟีฟ่า

ต่อการฟ้องขอสมาคมฟุตบอลของเหล่าแซมบ้าก็ได้บนสรุปว่า เหล่านักเตะที่ไม่ได้กลับไปรับใช้ชาตต่างจะถูกแบน

เป็นเวลาห้าวันด้วยกันและทำให้พวกเขาอดลงสนามในสุดสัปดาห์นี้อย่างช่วยไม่ได้

ba2

(Credit: Eurosport)

นักเตะบราซิลทั้งแปดคนที่ได้รับผลกระทบ

นักเตะทีมชาติบราซิลที่อดไปรับใช้ชาติก็มีตั้งแต่ Alisson Becker, Fabinho และ Roberto Firmino

จากลิเวอร์พูลที่ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ และไม่ได้ลงเล่นในเกมที่เจอกับลีดส์ยูไนเต็ดที่มี Raphinha อดลงสนามเช่นกัน

ส่วนทางด้านแมนเชสเตอร์ซิตี้ก็มีทั้ง Ederson และ Gabriel Jesus ที่อดลงสนามไปพร้อมกัน ก่อนที่ Scott Carson

จะได้รับโอกาสแทนในตำแหน่งผู้รักษาประตู สำหรับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็จะไม่มี Fred กองกลางตัวรับ

ไปจนถึง Thiago Silva ของเชลซีที่จะอดไปบุกเยือนแอสตันวิลล่าเช่นกัน

ba3

(Credit: The Sun)

กฎแบนห้าวันคืออะไร

จุดเริ่มต้นที่ทำให้นักเตะบราซิล รวมถึงทีมชาติจากอเมริกาใต้จะต้องอดลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ก็มาจาก

กฎห้าวันที่ใช้เพื่อปกป้องเหล่าทีมชาติที่อาจโดนทางสโมสรรั้งตัวนักเตะแบบไม่เป็นธรรมต่อพวกเขานั่นเอง

ซึ่งนักเตะที่ไม่ได้กลับมาลงสนามให้แก่ประเทศตัวเองมีสิทธิถูกแบนเป็นเวลาห้าวันด้วยกัน หลังจากที่ก่องหน้านี้

ทางสโมสรในอังกฤษได้ออกมาตรการไม่ให้นักเตะจากประเทศโซนแดงกลับไปลงเล่นให้กับทีมเหล่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้

เหล่าผู้เล่นจะต้องกักตัวเป็นเวลาสิบวันเลยทีเดียว รวมถึงทางสโมสรต่าง ๆ ก็พยายามจะเจรจากับรัฐบาล

เพื่อโอกาสลดวันกักตัว ไปจนถึงการผ่อนผันการแบนในอนาคตอีกด้วย

จากกฎห้าวันนี้เอง ก็ทำให้แฟนบอลจะไม่ได้เห็นนักเตะทีมชาติบราซิลในเกมพรีเมียร์ลีกอย่างแน่นอน

ซึ่งการแบนครั้งนี้จะสิ้นสุดก่อนช่วงสุดสัปดาห์หน้าและน่าจะทำให้ทุกคนได้กลับมาเห็นนักเตะ

อย่าง Firmino, Thiago Silva หรือ Ederson กลับมาลงสนามอย่างที่ควรจะเป็นในที่สุด

แม้มันจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า หากพวกเขาไม่ต้องเสี่ยงติดโควิดกลับมาและแพร่ระบาดต่อไปนั่นเอง