แผนการเล่นของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของ Frank de Boer ที่แฟนบอลไม่คุ้นเคย

สำหรับแฟนบอลของทีมชาติเนเธอร์แลนด์นั้นคงจะคุ้นเคยกับแผนการเล่นแบบ 4-3-3 ที่สร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลเป็นอย่างมาก รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของแผน Total Football ที่สร้างชื่อของตำนานอย่าง Johan Cruyff เช่นกัน ทว่าในการเตรียมตัวสำหรับรายการฟุตบอลยูโร 2020 นั้น ผู้จัดการทีมอย่าง Frank de Boer กลับเลือกที่จะใช้แผน 5-3-2 มากกว่า ถึงแม้ว่าสไตล์การเล่นของทีมอัศวินสีส้มจะไม่เหมือนอย่างที่แฟนบอลคิดไว้ แต่น้องชายของ de Boer อย่าง Ronald ยังเชื่อว่า การเล่นแบบนี้อาจจะทำได้ดีในการแข่งขันจริงได้ ต่อให้พวกเขาจะเพิ่งเสมอกับทีมรองอย่างสก็อตแลนด์มาก็ตาม

4-3-3 แผนสุดคลาสสิคของทีมชาติเนเธอร์แลนด์

เดิมทีแล้ว รูปแบบการเล่นที่เป็นภาพจำของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ก็คือการเล่นแบบตัวรุกสามคน ไม่ว่าจะเป็น 4-3-3 หรือ 3-4-3 ซึ่งมีตำนานอย่าง Johan Cryuff นำไปใช้ในการคุมสโมสรต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จ รวมถึงพาทีมบ้านเกิดกลายเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1974 อีกด้วย ก่อนที่สามประสานของอัศวินสีส้มในยุคทองอย่างปี 1988 ที่พวกเขามีสามทหารเสืออย่าง Ruud Gullit, Marco van Basten และ Frank Rijkaard จะพาทีมชาติประสบความสำเร็จในที่สุด ซึ่งการเล่นเกมรุกเป็นหลักถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์กลายเป็นทีมที่หลายคนให้ความสนใจมาโดยตลอดนั่นเอง

เมื่อทีมชาติเนเธอร์แลนด์เปลี่ยนมาใช้ 5-3-2

แม้ว่าเนเธอร์แลนด์จะเล่นเกมรุกเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม แต่สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็มักจะพบกับความผิดหวังอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจบทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในบทบาทพระรองอยู่เสมอ ก็ทำให้ Frank de Boer ลองเปลี่ยนแผนการเล่นที่เน้นเกมรับมากขึ้นอย่าง 5-3-2 ซึ่งก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ต่อผู้จัดการทีมคนนี้อย่างมากจากเกมที่พวกเขาทำได้เพียงเสมอกับทีมชาติสก็อตแลนด์ไปด้วยสกอร์ 2-2 แต่ทาง Ronald de Boer ยังคงออกมาหนุนหลังพี่ชายของตัวเองไว้ เนื่องจากรูปแบบการเล่นที่เพิ่มกองหลังเข้าไปอาจจะช่วยให้รับมือกับทีมที่มีตัวรุกเก่ง ๆ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

เป้าหมายของทีมชาติเนเธอร์แลนด์

การยอมเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นของตัวเองไปของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ก็อาจมาจากการที่พวกเขามักจะล้มเหลวในการเล่นทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ รวมทั้งยังพลาดการเล่นฟุตบอลโลกปี 2018 มาแล้ว จนทำให้ Frank de Boer ผู้จัดการทีมเลือกที่จะเปลี่ยนรูปแบบการเล่นก่อนที่จะเข้ามาสู่รายการยูโร 2020 ได้สำเร็จ โดยพวกเขาจะอยู่กลุ่มเดียวกับทททีมชาติยูเครน มาซีโดเนียเหนือและออสเตรียในกลุ่ม C นั่นเอง

ทางทีมชาติเนเธอร์แลนด์คงจะต้องพยายามอย่างเต็มที่อย่างแน่นอน หลังจากที่พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ปี 1988 แล้ว ซึ่งก็นับว่า พวกเขาไม่ได้แชมป์รายการใด ๆ นับจากยุคทองของตัวเองที่มีตำนานอย่าง Gullit, Rijkaard และ van Basten รวมทั้งการที่ยอมทิ้งแผนการเล่น Total Football ของ Cryuff ไปก็อาจจะเป็นไพ่ตายของอัศวินสีส้มแล้วเช่นกัน

Tag: ทีมชาติเนเธอร์แลนด์, ฟุตบอลยูโร

รูปภาพ: Flick, John Macdogall