โรม่าให้ความสนใจ Tammy Abraham มาแทนที่ Edin Dzeko

tam1

(Credit: Football London)

กลายเป็นกองหน้าเนื้อหอมอีกคนไปแล้ว สำหรับ Tammy Abraham ที่ล่าสุดทางโรม่าต้องการจะเจรจาซื้อตัวดาวยิง

ชาวอังกฤษคนนี้ไปร่วมทีม หลังจากที่สโมสรเชลซีก็ต้องการจะนำเอา Romelu Lukaku กลับมาสู่ทีมอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนทางด้านดาวยิงที่แข้งเกิดในยุคของ Frank Lampard ก็เตรียมจะต้องหาทีมใหม่ในฤดูกาลหน้า โดยทางยอดทีม

หมาป่าแห่งกัลโช่ซีรีย์อาก็ต้องการกองหน้าคนใหม่ หลังจากที่เตรียมจะปล่อยตัว Edin Dzeko ออกไปสู่อินเตอร์มิลาน

จนต้องหันมามองผู้เล่นส่วนเกินของสิงโตน้ำเงินครามในที่สุดเพื่อเป็นหน้าเป้าคนต่อไป

tam2

(Credit: SportsLumo)

Tammy Abraham ที่ไม่ได้มีเพียงโรม่าให้ความสนใจ

การคว้าตัว Tammy Abraham ของโรม่าไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน เมื่อกองหน้าของเชลซีมีทางอาร์เซน่อล

กับอตาลันต้าให้ความสนใจอยู่เช่นกัน โดยทางสโมสรเทพีที่ได้ไปยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกนั้นก็ต้องการหานักเตะมาแทนที่

Duvan Zapata ซึ่งมีทางอินเตอร์มิลานให้ความสนใจอยู่ หากพวกเขาปล่อย Romelu Lukaku ออกไป ส่วนทางด้าน

ทีมปืนใหญ่ที่น่าจะเจรจากับนักเตะได้ง่ายที่สุด หลังจากที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกับสโมสรเก่า

ก็เจอปัญหาเรื่องการเงินที่ไม่พร้อมทุ่ม 40 ล้านปอนด์ให้แก่นักเตะรายนี้

ก่อนที่ทีมหมาป่าจะรีบเข้ามามีส่วนร่วมในกรณีที่ Dzeko ย้ายไปอยู่กับอินเตอร์แทน Zapata นั่นเอง

tam3

(Credit: talkSport)

ผลงานที่ไม่ธรรมดาของ Tammy Abraham

ทาง Tammy Abraham เองได้อยู่กับเชลซีมาตั้งแต่ปี 2004 และเป็นเด็กปั้นอีกคนหนึ่งที่ได้ฉายแวว

ความเป็นศูนย์หน้ามาแล้วในช่วงฤดูกาล 2019/2020 ก่อนที่เขาจะได้ลงสนามกับทีมไปทั้งสิ้น 82 นัด

รวมถึงยิงได้ถึง 30 ประตูด้วยกัน แม้ว่าบางช่วงเจ้าตัวจะถูกส่งออกไปให้สโมสรบริสตอลซิตี้ สวอนซี

และแอสตันวิลล่ายืมตัวก็ตาม จนกระทั่งในฤดูกาลที่ผ่านมาของเขา เจ้าตัวได้ลงสนามไปเพียง 32 เกมและยิงประตู

ได้ 12 ลูก ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า การเข้ามาของ Thomas Tuchel ที่ชื่นชอบนักเตะอย่าง Timo Werner

หรือ Kai Havertz มากว่ากองหน้าตัวเป้ารายนี้

เชื่อว่าในวัย 23 ปีของ Tammy Abraham ก็น่าจะเป็นโอกาสอันดี หากเขาตัดสินใจเลือกไปเล่น

ให้กับทีมที่พร้อมให้โอกาสมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นอาร์เซน่อล โรม่าหรืออตาลันต้าก็ตาม ซึ่งการลงสนามอย่างเป็นประจำ

ได้ช่วยให้ดาวยิงรายนี้พัฒนาตัวเองได้ไวมากขึ้น เหมือนกับช่วงที่ Frank Lampard คุมทีมสิงโตน้ำเงินครามอยู่

ส่วนการย้ายสโมสรครั้งนี้ของเจ้าตัวก็น่าจะขึ้นอยูกับดีลอื่นที่จะเกิดขึ้นในตลาดซื้อขายเดียวกันอีกด้วย