Leonardo Bonucci ยอมรับ เกมกับสเปนนั้นยากที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา

italy1

(Credit: Eurosport)

 Leonardo Bonucci กองหลังทีมชาติอิตาลีออกมาพูดถึงเกมที่พวกเขาสามารถเอาชนะทีมชาติสเปนไปได้

จากการดวลลูกจุดโทษว่า นี่คือเกมที่ยากที่สุดเท่าที่เจ้าตัวเคยลงเล่นมา แม้ว่าสุดท้ายเหล่าทัพอัซซูรี่จะสามารถตีตั๋วเข้า

รอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ได้สำเร็จ โดยเกมนี่พวกเขาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากสกอร์ของกองหน้าฟอร์มแรงอย่าง

Federico Chiesa ก่อนที่ทาง Alavaro Morata จะสามารถตีเสมอให้กับทีมจนทำให้เกมต้องดำเนินไปถึง 120 นาที

และการดวลจุดโทษก็กลายเป็นช่วงตัดสินใจให้ทีมของ Bonucci เข้ารอบไปได้อีกครั้งเหมือนกับตอนรอบ 8 ทีมสุดท้าย

italy2

(Credit: Eurosport)

แมตช์ที่ยากลำบากของ Bonucci

ทางกองหลังของทีมชาติอิตาลีได้สัมภาษณ์กับทาง RAI Sport ซึ่งเจ้าตัวก็บอกทันทีว่า นี่คือเกมที่ยากที่สุด

รวมถึงเขาต้องแสดงความยินดีกับทีมชาติสเปนด้วยที่ทำผลงานในสนามได้เป็นอย่างดี

แม้สุดท้ายจะเป็นทางทีมของเขาเองที่ยังคงมีสปิริตที่ชัดเจน มีความมุ่งมั่น

และมีความสามารถที่จะผลักให้ช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ก่อนที่ผลของการดวลจุดโทษจะเข้าข้างฝั่งของ Bonucci

 

 โดยเจ้าตัวมองว่า ชัยชนะที่แลกมาด้วยความเจ็บปวดมักจะมีความสุขที่สุดเสมอ รวมถึงพวกเขายังเหลืออีก

แค่ก้าวเดียวเท่านั้น เพราะตอนนี้พวกเขาได้เข้ารอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลยูโรไปแล้ว

และทีมจะต้องเก็บอารมณ์หิวกระหายชัยชนะนี้ไว้ต่อไป

italy3

(Credit: Football Italia)

สปิริตอิตาลีที่ชัดเจน

ทีมชาติอิตาลีกลายเป็นทีมที่แพ้ยากก็ว่าได้ ซึ่งผลงานเกมรับที่เป็นจุดเด่นเสมอมาของพวกเขาก็ต้อง

ยกความดีความชอบส่วนหนึ่งให้แก่ Gianluigi Donnarrumma ที่ออกมาชมสปิริตของทีมตัวเองไว้ว่า

นักเตะสามารถคว้าชัยในเกมที่ยากมาได้ ซึ่งทางผู้รักษาประตูคนนี้เองที่ป้องกันลูกยิงของ Alvaro Morata  

ในช่วงดวลจุดโทษไปได้จนกระทั่งทีมชาติสเปนจะต้องอกหักไปในที่สุด รวมถึงเขายังออกมายอมรับว่า

ตัวเองรู้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทีมเข้ารอบไปได้และยังต้องขอขอบคุณทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีม

หรือแฟนบอลในสนาม อีกทั้งพวกเขายังเหลือเพียงชัยชนะอีกครั้งเดียวก็จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จในยูโรแล้ว

อีกแค่เกมเดียวเท่านั้นที่ทีมชาติอิตาลีต้องการสำหรับการคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 ซึ่งทั้ง Bonucci หรือ

Donnarrumma ต่างมั่นใจในสปิริตของทีมในปัจจุบันอย่างมาก ซึ่งตามมาตรฐานของพวกเขาในรายการนี้

ก็ไม่น่าแปลกใจที่ Roberto Mancini อาจคว้าถ้วยรางวัลกลับไปประดับยศแก่ตัวเองได้อีกครั้ง

หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากระดับสโมสรมาแล้ว