Samir Nasri อดีตแข้งดังของอาร์เซน่อลและแมนซิตี้ประกาศรีไทร์แล้ว

(Credit: 90Min)

ถึงคราวอำลาไปอีกคน สำหรับทาง Samir Nasri กองกลางชาวฝรั่งเศสที่เคยสร้างชื่อในพรีเมียร์ลีกกับทีม

อย่างอาร์เซน่อล ก่อนจะไปเป็นคนยกระดับให้แมนซิตี้ในเวลาต่อมา จนกระทั่งหลังจากรับใช้ทีมอันเดอร์เลทช์

ในปี 2020 แล้วนั้น เจ้าตัวก็ออกมาประกาศอำลาสนามอย่างเป็นทางการในวัย 34 ปีเท่านั้น ซึ่งสาเหตุหนึ่ง

ก็เป็นเพราะว่า อาการบาดเจ็บที่รบกวนเขามาตั้งแต่ปีก่อน จนไม่สามารถลงสนามได้บ่อยนัก ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนบทบาท

ตัวเองไปเป็นนักวิเคราะห์ในช่อง Canal+ พร้อมยอมรับว่า อาชีพนักเตะของตัวเองเป็นเรื่องในอดีตไปเสียแล้ว

(Credit: Sky Sports)

ประเด็นสำคัญที่ทำให้ Samir Nasri จะต้องเลิกเล่นฟุตบอลไปเลยก็คือ การถูกลงโทษห้ามลงสนามนานถึง 18 เดือน

หลังจากเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง จากการไปฉีดวิตามินเขาร่างกาย เนื่องจากเขามองว่า

มันไม่ยุติธรรมเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาไม่ได้ฉีดสารกระตุ้นแต่อย่างใด ทว่ามันเป็นเพียงวิตามินจากอาการป่วย

ตามปกติเท่านั้น ซึ่งมันก็ทำให้เขาจะต้องหายจากวงการฟุตบอลไปนาน จนกระทั่งได้กลับมาเล่นให้แก่เวสต์แฮมยูไนเต็ด

ระยะสั้น ตามด้วยการย้ายไปเล่นให้แก่อันเดอร์เลทช์ที่ประเทศเบลเยี่ยม แต่อาการบาดเจ็บและโรคระบาด

ก็ทำให้เขาจะต้องยอมรับช่วงเวลาของฟุตบอลในที่สุด

(Credit: The Mirror)

อาชีพของ Samir Nasri เองก็ถือว่า ประสบความสำเร็จไม่น้อยเลย หลังจากที่เขาเป็นเด็กฝึกของโอลิมปิคมาร์กเซย

พร้อมขึ้นชุดใหญ่ในปี 2004 ก่อนจะลงสนามไปมากถึง 166 เกมและย้ายมาสู่อาร์เซน่อลในปี 2008 หลังจากที่เขา

กลายเป็นกองกลางจอมทำประตูตลอดสามปีกับทีมปืนใหญ่ เขาก็ได้ย้ายมาสู่แมนซิตี้ในปี 2011 ก่อนจะไปถึงจุดสูงสุด

ของอาชีพ เมื่อเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สองครั้งกับทีมเรือใบสีฟ้า แต่ด้วยอาการบาดเจ็บของเจ้าตัว ก็ทำให้เขาถึง

ช่วงขาลงและต้องตระเวนไปลงเล่นตามทีมต่าง ๆ ทั่วยุโรปอย่างเซบีญ่า อันทาเลียสปอร์ต เวส์แฮมและอันเดอร์เล็ทช์

จากความสำเร็จมากมายในเวทียุโรปของ Samir Nasri ก็ไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมเขาถึงเลือกที่จะประกาสอำลาสนาม

ในช่วงที่ร่างกายไม่สมบูรณ์อีกต่อไปแล้ว รวมถึงการที่ใช้เวลาท่องยุโรปมาอย่างยาวนานก็คง

เป็นสาเหตุให้เขาอิ่มตัวเช่นกัน แม้ว่าอดีตกองกลางของแมนซิตี้รายนี้จะยังให้ความหวังตัวเองว่า

หากทางโอลิมปิคมาร์กติดต่อเขามา เจ้าตัวก็พร้อมจะกลับมาลงสนามเพื่อเป็นการส่งท้ายอาชีพของตัวเองเช่นกัน