Steve Bruce ชายที่จากนิวคาสเซิลไปอย่างไร้ปราณี

(Credit: 90Min)

เป็นผลกระทบลูกโซ่ที่เลี่ยงไม่ได้ สำหรับทาง Steve Bruce ที่จะต้องออกจากนิวคาสเซิลไป หลังจากลงคุมทีมนัด

ที่ 1000 ในอาชีพของเขาและกลายเป็นแมตช์สุดท้ายกับทีมสาลิกาดงไป โดยเจ้าตัวพาทีมแพ้ท็อตแนมฮอตสเปอร์ส

คาบ้านด้วยสกอร์ 2-3 แม้ว่าเขาจะพยายามพิสูจน์ตัวเองว่าดีพอสำหรับงานใหญ่นี้ ทว่าสุดท้ายผลงาน

ที่ไม่กระเตื้องของทีมก็เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ความทะเยอทะยานของเจ้าของใหม่ได้ตัดสินใจแยกทางกับกุนซือรายนี้ไป

ก่อนที่จะเป็นเจ้าตัวที่ออกมาเปิดใจถึงความเศร้าที่เข้ารับตำแหน่งนี้ตั้งแต่วันแรกเลยทีเดียว

(Credit: 90Min)

ในการเปิดใจของ Steve Bruce หลังจากออกจากตำแหน่งกุนซือมาแล้ว เขาได้กล่าวขอบคุณทีมงานที่อยู่ร่วมกันมา

ซึ่งในตอนที่เขายังอยู่กับเบอร์มิงแฮม ซันเดอร์แลนด์ ฮัลล์ซิตี้หรือวีแกน เขาก็จะต้องรับมือกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย

อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทว่าการรับงานกับสาลิกาดงที่เขาคิดว่า รับมือได้แน่ ๆ กลับเจอแต่สิ่งที่พยายามบั่นทอนจิตใจเสมอ

ตั้งแต่วันแรก เพราะเขาไม่ได้เป็นที่ต้องการของแฟนบอลเลยและหลายคนก็ต้องการเห็นเขาล้มเหลวกับงานใหม่นี้

หลังจากที่มีแต่ความเห็นว่า เขาเป็นไอ้อ้วนไร้สมอง ถึงจะทำผลงานได้ดีบ้างก็ตาม

(Credit: 90Min)

สิ่งที่ Steve Bruce พยายามพูดถึงก็คือ ต่อให้มีนักวิจารณ์มากมายถึงสภาพทีมที่เหมือนจะหนีตกชั้นตลอดเวลา

ทว่าในตอนท้ายฤดูกาลของพวกเขานั้น ทีมก็เคยจบอันดับที่ 13 ของตาราง ส่วนในปีถัดมาที่หลายคนมองว่า

มันคงจบแล้วสำหรับเขา แต่สุดท้ายนิวคาสเซิลก็จบฤดูกาลที่อันดับ 12 และห่างจากทีมตกชั้นถึง 17 แต้มด้วยกัน

แม้เขาจะพยายามมีความสุขกับผลงานของทีม ทว่าการไม่สามารถเอาชนะใจแฟนบอลได้เลย

มันก็ทำร้ายจิตใจของเจ้าตัวกับครอบครัวอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาเป็นแฟนของทีมนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วนั่นเอง

ซึ่งมันอาจจะจบแล้วสำหรับอาชีพผู้จัดการของเขา

แน่นอนว่า ผลงานของ Steve Bruce อาจจะดูดีตามหน้ากระดาษ เพราะเขาทำให้นิวคาสเซิลรอดตกชั้นได้ถึงสองครั้ง

ทั้งที่มีรูปแบบการเล่นที่ไม่น่าเอาตัวรอดได้เลยก็ตาม ทว่าทางแฟนบอลต่างต้องการให้ทีมมีความทะเยอทะยานมากกว่านี้

และยังต้องการเห็นทีมประสบความสำเร็จมากกว่าอยู่รอดตกชั้นพร้อมหวังเพิ่งดวงไปวัน ๆ

ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่เขาจะกระเด็นออกจากเก้าอี้กุนซือในที่สุด